สำหรับข้าวฮางงอกเป็นภูมิปัญญาการถนอมอาหารของชาวภูไทในเขตอีสานที่มีมานานกว่า 200 ปี โดยการนำข้าวเปลือกมาแช่น้ำเพื่อกระตุ้นสารอาหารจากเปลือกข้าวให้ซึมลงไปในเมล็ดข้าว จากนั้นนำไปนึ่งเพื่อกักเก็บสารอาหารไว้ในเมล็ดข้าวแล้วจึงนำไปตากแห้งเพื่อนำมาเข้าเครื่องสีข้าวกะเทาะเปลือก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างซับซ้อนพิถีพิถันและต้องอาศัยสภาพอากาศที่เหมาะสมทำให้การทำข้าวฮางงอกแต่ละครั้งต้องใช้เวลานานกว่า 7 วัน
ด้วยคุณประโยชน์ของข้าวฮางจากภูมิปัญญาจึงนำมาสู่การพัฒนาข้าวฮางงอกคุณภาพสูงโดยทีมวิจัยของ ผศ.ดร.สุพรรณ ยั่งยืน ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริการวิชาการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ด้วยการนำนวัตกรรมสมัยใหม่ที่ชื่อว่า “เครื่องเร่งกระบวนการแช่และเพาะงอกข้าวเปลือก” เข้ามาช่วยเร่งการงอกให้เร็วขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อลดระยะการผลิตข้าวฮางงอกจาก 7 วัน ให้เหลือเพียง 2 วัน
ทั้งยังยังมีการอบแห้งด้วยรังสีอินฟราเรดและลมร้อนที่ช่วยเพิ่มคุณภาพสินค้าให้ดีขึ้น ทั้งมีกลิ่นหอมและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุน เป็นรสชาติที่ถูกใจของผู้บริโภคพี่พ่วงมาด้วยคุณประโยชน์เหลือล้น
ปัจจุบันเครื่องเร่งกระบวนการแช่และเพาะงอกข้าวเปลือก ได้ถูกนำไปใช้ในวิสาหกิจชุมชนหลายแห่งในภาคอีสานเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพข้าวฮางงอก ย่นระยะการผลิตให้น้อยลง และเพิ่มความสะดวกให้แก่เกษตรกร ซึ่งข้าวฮางงอกยังสามารถนำไปแปรรูป เช่น แป้งข้าวเพื่อสุขภาพ ผงชงดื่ม แป้งทำคุกกี้ และอีกหลากหลายผลิตภัณฑ์ ทั้งยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มจากเดิมที่ขายข้าวเปลือกได้ 15 บาท/กิโลกรัม แต่พอเข้าสู่กระบวนการทำข้าวฮางงอกสามารถขายได้ถึง 31 บาท/กิโลกรัม ยิ่งหากเป็นข้าวอินทรีย์ด้วยแล้วยิ่งทำให้ราคาสูงขึ้น เพิ่มกำไรได้กว่า 6 เท่าตัว ส่วนข้าวฮางงอกสำหรับไก่ชนราคาอยู่ที่ 250 บาท/กระสอบ (5 กิโลกรัม)
ขั้นตอนการทำข้าวงอก เลือกพันธ์ข้าวที่จะทำ จากนั้นนำข้าวเปลือกมาแช่น้ำเพื่อให้เกิดการงอกำ โดยเลือกเมล็ดที่ลอยน้ำและสิ่งเจือปนต่างๆ ออกแล้วแช่น้ำ 1 วัน บ่มแห้ง 1 วัน จากนั้นนำมานึง 40 นาที การนึ่งด้วยความร้อนเพื่อที่จะรักษาคุณภาพของข้าว แล้วนำมาตากแดด 6 ชั่วโมง และกลับข้าวทุก 1 ชั่วโมง นำข้าวที่ตากแดดจนแห้งแล้วไปสี ถ้าข้าวยังมีความชื้นให้ผึ่งลมในร่มอีก 4-6 ชั่วโมงจนข้าวแห้ง