คำสั่งของศาลในกัมพูชาที่ให้ฆ่าไก่ชนหลายสิบตัวที่พบในการแข่งขันชนไก่ผิดกฎหมายเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในกัมพูชา โดยเฉพาะตามสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ
หลังจากศาลกัมพูชามีคำสั่งให้ฆ่าไก่ชน จำนวน 92 ตัว ที่ตำรวจจับมาได้ระหว่างการบุกทลายบ่อนไก่ชนที่ผิดกฎหมายในกัมพูชา ในขณะที่เจ้าของบ่อนไก่ชนผิดกฎหมายนั้นกลับถูกชะลอการพิจารณาคดีออกไป ได้ก่อให้เกิดกระแสต่อต้านและวิภาควิจารย์ขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ของกัมพูชา
คุณเพรียบ โคล ผอ.บริหารขององค์กร Transparency International of Cambodia โพสต์ข้อความใน Facebook ว่า “เป็นเรื่องไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย ที่มีไก่ชนถูกฆ่าถึง 92 ตัว แต่เจ้าของบ่อนไก่ชน นั้นกลับยังไม่ถูกลงโทษ ถือเป็นความบกพร่องอีกครั้งหนึ่งของระบบยุติธรรมของกัมพูชา”
กีฬาชนไก่ในกัมพูชานั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 12 แต่ถูกสั่งห้ามอย่างอย่างเป็นทางการเมื่อปี ค.ศ. 2009 อย่างไรก็ตาม ยังคงมีการลักลอบชนไก่อย่างผิดกฎหมายในหลายพื้นที่ของกัมพูชา หนึ่งในนั้นคือบ่อนไก่ชนผิดกฎหมายในจังหวัดกันดาล (Kandal) ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นของญาติคนหนึ่งของ นายกฯ ฮุน เซ็น ชื่อว่า ไท พันนี (Thai Phanny)
แต่สำนักข่าว AFP รายงานว่า นายพันนีเพียงแต่ถูกตักเตือน ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวเป็นอิสระภายใต้การดูแลตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ เรื่องนี้ยิ่งทำให้เสียงตำหนิวิพากษ์คำตัดสินของศาลกัมพูชาครั้งนี้ มีแง่มุมทางการเมืองพ่วงมาด้วย
เสียงวิจารณ์ดังกล่าวในโลกออนไลน์ยิ่งดังขึ้น เมื่อมีการแชร์วิดีโอที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดคอไก่ชนที่จับมาได้หลายตัวอย่างเลือดเย็นและเวทนาแก่คนรักไก่ชน และมีรายงานทางสื่อ AFP ของฝรั่งเศส ซึ่งอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่กัมพูชาว่า ตำรวจได้นำไก่ชนเหล่านั้นไปฆ่าและทำเป็นอาหารกินกันเรียบร้อยแล้ว คุณโซเอ็ง เซนกรุณา โฆษกขององค์กรสิทธิมนุษยชน Adhoc กล่าวว่า ข่าวการฆ่าไก่ชนนั้นสร้างความตกใจอย่างมากให้กับชาวกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบว่าผู้กระทำผิดนั้นยังลอยนวล